2Sep
Seventeen เลือกผลิตภัณฑ์ที่เราคิดว่าคุณจะชอบมากที่สุด เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากลิงก์ในหน้านี้
ฉันไม่ได้กังวลขนาดนั้น แต่แพทย์ประจำครอบครัวของฉันสังเกตเห็นไฝในระหว่างการตรวจร่างกายตามปกติ และได้นัดพบฉันในวันรุ่งขึ้น! นั่นทำให้ฉันประหลาดใจ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ฉันเอาไฝออกและฉันคิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
แต่สองสามวันต่อมา พ่อบอกว่าเราต้องคุยกัน เขาบอกว่า "หมอเพิ่งทราบผลการตรวจของคุณ คุณมีมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรง” ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังรูปแบบที่อันตรายที่สุด มะเร็งผิวหนัง? ฉันคิดว่ามีแต่คนแก่เท่านั้นที่เข้าใจ “พ่อครับ ผมอายุ 17 ปี ฉันไม่เป็นมะเร็งผิวหนัง" ฉันพูด ฉันนั่งอยู่ที่นั่นในความเงียบ สุดท้ายฉันถามว่า "ฉันจะตายจากสิ่งนี้ได้ไหม" เขาพยายามทำให้ฉันมั่นใจว่าพวกเขาจับได้เร็วและฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันก็เห็นว่าเขากลัวเหมือนกัน
สองสัปดาห์ต่อมา เราไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเอาเนื้อออกหนึ่งนิ้ว ลึกครึ่งเซนติเมตร บริเวณที่ไฝของฉันเคยอยู่ ยังมีรอยเยื้องจากชิ้นส่วนของผิวหนังที่ถูกดึงออกมา และมะเร็งยังคงกลับมาได้ ซึ่งตามหลอกหลอนฉันทุกวัน ฉันต้องไปตรวจผิวหนังกับแพทย์ผิวหนังทุกสี่เดือน และตรวจดูต่อมน้ำเหลืองของฉันเพื่อหาอาการบวม เพราะมะเร็งอาจกลับมาเกิดใหม่ที่นั่นและแพร่กระจายได้
ตอนนี้ฉันไม่เคยทำผิวสีแทน (เฉพาะสเปรย์สีแทน) - แม้ว่าเพื่อนของฉันบางคนยังคงทำอยู่ พวกเขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงหลายคนคิดว่ามะเร็งเป็นความเสี่ยงในอนาคต แต่จริงๆ แล้วตอนนี้คุณกำลังทำร้ายร่างกาย ฉันแค่ดีใจที่มีโอกาสบอกคนที่กำลังใช้เตียงอาบแดดเพื่อตัดสินใจได้ดีขึ้น”
—เคธี่ ดอนนาร์ อายุ 19 ปี
“เมื่อโตขึ้น ฉันไม่เคยคิดที่จะทาครีมกันแดดเลย ผิวของฉันก็สีแทนได้ง่ายเสมอ ฉันเลยคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ปีที่แล้ว ตอนที่ฉันอายุ 13 ปี เรากำลังไปเที่ยวพักผ่อนที่ฮาวาย ฉันจึงซื้อแพ็คเกจฟอกหนังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง (หมายเหตุบรรณาธิการ: ในรัฐอิลลินอยส์ การใช้เตียงอาบแดดที่อายุต่ำกว่า 14 ปีเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ไม่มีใครขอ Laura's I.D.) ไม่กี่เดือนต่อมา ฉันสังเกตว่ามีรอยที่หน้าอก—ฉันไม่เคยมีไฝตรงนั้นเลย ก่อน. ปรากฎว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง และแพทย์พบปานที่เป็นมะเร็งด้วย ฉันต้องทำการผ่าตัดสองครั้ง และแต่ละครั้งต้องเย็บประมาณ 20 เข็ม โชคดีที่พวกเขาสามารถเอาเซลล์มะเร็งออกได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ฉันต้องตรวจผิวหนังและต่อมน้ำเหลืองของฉันทุกเดือน เพราะมะเร็งสามารถกลับมาเป็นอีกได้ ฉันรู้ว่าฉันต้องระวังแสงแดด และใช้ความระมัดระวังให้ดีขึ้นมากไปตลอดชีวิต”
—ลอร่า 14 ปี